วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

สถานที่ท่องเที่ยว


อุทยานแห่งชาติดอยจง มีลักษณะเป็นภูเขาทอดยาวตามแนวทิศเหนือไปทางทิศตะวันตดเฉียงใต้มีเทือกเขาขนาดใหญ่เล็กหลายลูกสลับซับซ้อนกัน มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ระหว่าง 270 – 1300 เมตร เทือกเขาเหล่านี้เป็นต้นกำเนิดลำห้วยหลายสายไหลลงสู่แม่น้ำวังซึ่งเป็นแม่น้ำที่สำคัญของจังหวัดลำปางและยังเป็นแหล่งต้นน้ำสำหรับอ่างเก็บน้ำหลายแห่ง เช่น อ่างเก็บน้ำแม่ปราบอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ปู อ่างเก็บน้ำแม่ยอง อ่างเก็บน้ำแม่ทาย อ่างเก็บน้ำแม่กาดอ่างเก็บน้ำแม่อาบฯ โดยน้ำจากอ่างเก็บน้ำจะไหลลงสู่แม่น้ำวังเป็นประโยชน์ทางการเกษตรในอำเภอสบปราบ อำเภอเถินและอำเภอแม่พริกจังหวัดลำปาง
การเดินทาง 
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยจง ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง การเดินทางเริ่มจาก อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธินลงไปทางใต้ประมาณ 54 กิโลเมตร ถึงที่ว่าการอำเภอสบปราบ ให้เลี้ยวขวาไปตามถนนกรมโยธาธิการสายบ้านหล่าย บ้านแก่น เมื่อถึงบ้านนาไม้แดงจากถนนพหลโยธิน ประมาณ 8 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการชั่วคราวอุทยานแห่งชาติดอยจง รวมระยะทางจากอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยจงประมาณ 68 กิโลเมตร

สภาพโดยทั่วไปของพื้นที่เป็นภูเขาหิน มีแร่รัตนชาติ สังกะสี หินแกรนิต หินอ่อน อยู่โดยทั่วไป

ลักษณะภูมิอากาศ
ในพื้นที่ระดับต่ำตามเชิงเขามีสภาพอากาศใกล้เคียงกับบริเวณอื่นๆ ของภาคเหนือ มีอุณหภูมิต่ำสุด 9.9 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 43.1 องศาเซลเซียส ส่วนสภาพอากาศบนยอดเขาอุณหภูมิแตกต่างจากอากาศในพื้นที่ราบ มีอุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 4 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยวัดได้ 893.6 มิลลิเมตรต่อปี

พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
สภาพป่า ประกอบด้วยป่าประเภทต่างๆ ได้แก่ ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง และป่าสนเขา

สัตว์ป่า มีสัตว์ป่าที่พบหลายชนิด เช่น หมีควาย เก้ง สิงชนิดต่างๆ หมูป่า กระแต กระรอก พังพอน อีเห็น นกชนิดต่างๆ งูชนิดต่างๆ เป็นต้น

จุดเด่นที่น่าสนใจ
แหล่งท่องเที่ยวบนยอดดอยจง โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาต่างๆ ใช้เส้นทางเดินเท้าเพียงอย่างเดียวจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ถึงบริเวณยอดดอยจง ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นได้ สวยงามมาก น่าประทับใจ มองเห็นทัศนียภาพรอบด้านได้ 360 องศา
·  เป็นจุดชมวิวมองเห็นบริเวณป่าของพื้นที่ มีเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนลดหลั่นกันมากมาย
·  จุดที่สูง 1,339 เมตร จากระดับน้ำทะเลจะมีอากาศหนาวเย็นสบายตลอดทั้งปี
·  บริเวณยอดเขามีกล้วยไม้ชนิดต่างๆ เป็นจำนวนมากให้ได้ชม โดยเฉพาะกล้วยไม้ฟ้ามุ่ยจะมีสีสวยงามมาก แปลกกว่าที่อื่นๆ จะออกดอกในระหว่างเดือนตุลาคม-มกราคม ของทุกปี
·  อ่างเก็บน้ำต่างๆ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ตั้งอยู่โดยรอบเขตอุทยานแห่งชาติ มีทัศนียภาพสวยงามเป็นอ่างเก็บน้ำแม่ทาย อ่างเก็บน้ำแม่ยอง อ่างเก็บน้ำแม่อาบ




ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย และ สวนป่าทุ่งเกวียน
ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งเกวียน ตำบลเวียงตาล  อยู่ในความดูแลของฝ่ายอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) แต่เดิม ออป. เป็นศูนย์ฝึกลูกช้างซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เป็นสถานที่เลี้ยงและฝึกลูกช้างเพื่อให้เชื่อฟังคำสั่งและมีความชำนาญในการทำไม้ขณะที่แม่ช้างไปทำงานในป่า และเนื่องจากมีนโยบายปิดป่าซึ่งทำให้ช้างต้องว่างงาน ศูนย์ฝึกลูกช้างจึงถูกปรับมาเป็นสถานที่ดูแลช้างแก่และเจ็บป่วย และที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลช้างด้วย
          ออป.จึงได้ก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยขึ้นเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 และจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ได้แก่ การแสดงของช้างในวันธรรมดา มี 2 รอบ เวลา 10.00 น. และ 11.00 น. สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพิ่มรอบ 13.30 น. มีการอาบน้ำช้างก่อนเวลาการแสดง เวลา 09.45 น. สำหรับวันธรรมดา และเวลา 13.15 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีบริการนั่งช้างรอบบริเวณซึ่งเป็นสวนป่า บริการอาหารเครื่องดื่มและร้านขายของที่ระลึก ค่าเข้าชมสำหรับ ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ส่วนช้างแท็กซี่ หรือบริการนั่งช้างชมธรรมชาติรอบ ๆ ศูนย์ฯ มีทุกวัน เวลา 08.00-15.30 น. นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการได้หลายเส้นทาง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 5424 7871, 0 5424 7874 (โรงพยาบาลช้าง)

          ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Awards) ประเภทรางวัลดีเด่นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พ.ศ.2541 ปัจจุบันศูนย์ฯ มีโครงการโรงเรียนฝึกควาญช้าง เพื่อฝึกควาญหรือผู้ที่ประสงค์จะเป็นควาญให้สามารถดูแลช้างได้อย่างถูกต้อง มีชาวต่างชาติให้ความสนใจมาสมัครเป็นนักเรียนหลายคน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.  08 6919 1892, 08 7201 9935  และมีกิจกรรม โฮมสเตย์ (Homestay) ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชีวิตที่ผูกพันระหว่างช้างกับคนเลี้ยงช้างอย่างใกล้ชิด เป็นรายการ 3 วัน 2 คืน คนละ 8,000 บาท  2 วัน 1 คืน คนละ 5,500 บาท (ครั้งละไม่เกิน 18 คน)  โดยรวมค่าอาหาร (ประกอบอาหารได้) ที่พัก บ้านพักโฮมสเตย์มีทั้งหมด 3 หลัง พักได้หลังละ 3 คน ราคา 500 บาท รายละเอียดกิจกรรมต่างๆ สอบถามได้ที่ โทร. 0 5424 7875, 08 9264 1091  และที่พักแบบรีสอร์ท ช้างไทยรีสอร์ท  มี 20 ห้อง พักได้ 2-5 คน ราคา 1,000-1,500 บาท (นักท่องเที่ยวควรติดต่อก่อนเข้าพัก 1อาทิตย์) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 5424 7871, 08 4612 1678 และผู้ประสงค์บริจาคเงินช่วยเหลือช้างไทย ติดต่อได้ที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ โทร. 0 5424 7876หรือ 
http://www.thailandelephant.org               
        นอกจากเรื่องท่องเที่ยวแล้วยังมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ พลังงานที่ใช้ภายในศูนย์ฯ มาจากพลังงานทดแทนในโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ มีก๊าซชีวภาพจากมูลช้างใช้ในการหุงต้ม และกระแสไฟฟ้าผลิตจากเซลล์แสงอาทิตย์ 
        ในบริเวณใกล้กันมี  สวนป่าทุ่งเกวียน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวลำปาง มีป่าสนเมืองหนาว เป็นสน 3 ใบ และพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งไม้ดอก ไม้ใบที่มีสีสันสวยงาม อีกทั้งไม้จำพวกตะบองเพชร ปาล์ม และสวนพันธุ์ไม้ 76 จังหวัด ตลอดจนพืชสมุนไพรต่าง ๆ นักท่องเที่ยวสามารถแค้มปิ้งที่นี่ได้ โดยนักท่องเที่ยวต้องนำเต็นท์มาเอง หรือจะพักบ้านพัก มีจำนวน 2 หลัง ราคา 350-400 บาท  ช่วงที่สวยที่สุดเหมาะแก่การพักแรมคือเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกบัวตองกำลังบาน เนื่องจากจังหวัดลำปางมีพื้นที่เป็นแอ่งกะทะจึงมีอากาศที่ร้อนกว่าแม่ฮ่องสอน ดอกบัวตองที่ลำปางจึงบานเร็วกว่าที่ดอยแม่อูคอประมาณ 15 วัน ประมาณเดือนตุลาคมมีการจัดกิจกรรมทุ่งเกวียนเมาเท่นไบค์  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 08 1885 3697 

       ภายในบริเวณสวนป่าทุ่งเกวียนยังมี สวนสัตว์เปิด  นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับสัตว์อย่างใกล้ชิด เช่น เก้ง กวาง เนื้อทราย นกยูง เป็นต้น  และทางสวนป่าทุ่งเกวียนยังมีพันธุ์ไม้ที่หายากไว้จำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวด้วย

        การเดินทาง ห่างจากตัวเมืองลำปาง 24 กิโลเมตร ริมทางหลวงหมายเลข 11 (สายลำปาง-ลำพูน) บริเวณกิโลเมตรที่ 28-29 หากโดยสารรถประจำทาง ขึ้นรถที่จะไปเชียงใหม่จากสถานีขนส่งลำปาง มาลงที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย




น้ำตกวังแก้ว
น้ำตกวังแก้วน้ำตกวังแก้วเป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งในอุทยานแห่งชาติดอยหลวงซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๓ และครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดพะเยาเชียงรายและลำปาง รวมเนื้อที่ประมาณ ๑,๑๗๐ ตารางกิโลเมตรสภาพภูมิประเทศเป็นเขาสูงทอดตัวแนวเหนือ-ใต้ มีดอยหลวงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดประกอบด้วยป่าเบญจพรรณ ป่าดิบชื้นและป่าเต็งรังปะปนกัน มีสัตว์ป่าและนกหลายชนิดที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ที่บริเวณน้ำตกปูแกง อ.พาน จ.พะเยา
น้ำตกวังแก้ว เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดของจังหวัดลำปาง มีชั้นน้ำตกประมาณ ๑๑๐ ชั้น แต่เป็นชั้นใหญ่ ๗-๘ ชั้น เมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของน้ำตกจะพบหมู่บ้านชาวเขาเผ่าเย้าที่บ้านป่าคาหลวง และบ้านส้านซึ่งมีทางขึ้นค่อนข้างชัน ที่น้ำตกวังแก้วยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น ๑.๔ กิโลเมตร นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมี น้ำตกวังทอง ซึ่งมีลักษณะคล้ายน้ำตกวังแก้ว
ค่าธรรมเนียมเข้าชม เด็ก ๑๐ บาท ผู้ใหญ่ ๒๐ บาท  สามารถกางเต็นท์ได้แต่ต้องเตรียมเสบียงไปเอง
การเดินทาง ใช้เส้นทางสายลำปาง-แจ้ห่ม-วังเหนือ ระยะทางประมาณ ๑๑๐ กิโลเมตร มีทางเข้าสู่น้ำตกทั้งสองข้างที่ว่าการอำเภอวังเหนือ จากปากทางเข้าสู่น้ำตกวังแก้วเป็นระยะทางประมาณ ๒๔ กิโลเมตร สภาพถนนเป็นทางลาดยาง ส่วนทางเข้าน้ำตกวังทองจากปากทางใหญ่ที่เข้ามาจะถึงก่อนน้ำตกวังแก้วประมาณ ๙ กิโลเมตร แต่เส้นทางที่เข้าไปค่อนข้างลำบากเพราะเป็นถนนลูกรัง หากเดินทางโดยรถประจำทางสามารถโดยสารรถสองแถวสีฟ้าสายลำปาง-วังเหนือมาลงหน้าที่ว่าการอำเภอและต้องเช่ารถต่อเข้าไปยังน้ำตก




แม่เมาะ
เหมืองลิกไนต์  อยู่ในเขตอำเภอแม่เมาะ ไปตามถนนสายลำปาง-เด่นชัย(แพร่) เป็นระยะทาง ๑๐ กิโลเมตร จากนั้นแยกซ้ายเข้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เป็นระยะทางประมาณ ๒๖ กิโลเมตรสามารถเช่ารถสองแถวซึ่งจอดอยู่บริเวณตลาดบริบูรณ์ในตัวเมือง ใช้เวลาเดินทางประมาณ๓๐ นาที

ลิกไนต์ เป็นถ่านหินประเภทหนึ่งที่มีการค้นพบในบริเวณนี้เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๐ มีปริมาณถึง ๖๓๐ ล้านตัน และมีอายุประมาณ ๔๐ ล้านปี พื้นที่เหมืองทั้งหมดเป็นของกรมป่าไม้ มีประมาณ ๒๐,๐๐๐ ไร่ สามารถใช้ได้อีกประมาณ ๕๐ ปี บริเวณเหมืองมีโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินชนิดนี้เป็นเชื้อเพลิงตั้งอยู่หลายโรง ถึงแม้นักท่องเที่ยวจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงไปบริเวณขุดเจาะถ่านหินเพราะมีอันตรายจากวัตถุระเบิดที่ใช้ทำเหมือง แต่กฟผ.ได้จัดทำจุดชมวิวสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นสวนหย่อม ตกแต่งปลูกไม้ดอกไม้ประดับต่างๆ ณ จุดนี้ ซึ่งสามารถมองเห็นการทำงานของรถขุดตักแร่ซึ่งอยู่ห่างออกไปเบื้องล่างได้เป็นมุมกว้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น